karnnikroSDGs เป้าหมายแห่งสหประชาชาติ กับการทำธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเราจะได้ยินศัพท์ใหม่ ๆ เต็มไปหมด ตั้งแต่ BCG, ESG, CSV, PPP ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้เราใส่ใจต่อสังคมมากยิ่งขึ้น แล้วมาดูกันว่า SDGs หรือ เป้าหมายความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ จะสัมพันธ์กับการทำธุรกิจเราได้อย่างไร และทำไมเราต้องใส่ใจเรื่องนี้
SDGs กับภาค ธุรกิจ
หากพูดในมุมการทำธุรกิจ มันอาจจะดูเลวร้ายในสายตานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งผมเองก็อยู่ในทั้งสองขา ทั้งทำธุรกิจ และยังคงรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมาอย่างสม่ำเสมอด้วย หากว่าด้วยเรื่องของการทำธุรกิจ ส่วนหนึ่งคือการลงทุนเพื่อได้ผลกำไรทดแทนซึ่งต้องคุ้มต่อการตัดสินใจลงทุนใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเรื่องของเวลา ทรัพยากร รวมทั้งเงิน ต้องได้รับผลตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้มากกว่าการลงทุนที่ใช้ไป ตามระยะเวลาที่เรารับได้ (Break even point) และการทำธุรกิจที่ใส่ใจโลก และความยั่งยืน คือแนวโน้ม หรือเทรนด์ที่ทั่วทั้งโลกกำลังขับเคลื่อน และผู้ใดที่ขยับก่อนย่อมได้เปรียบ ถ้าขยับถูกจุด บทพิสูจน์ของเทรนด์นี้ก็คือในหลักสูตรการศึกษาทั่วโลกได้ใส่ด้าน Environmental ไว้เรียบร้อยแล้ว ขนาดผมเองที่ยังถือเป็น GEN Y ตอนปลายยังไม่มีโอกาสได้เรียน ต้องเตรียมตัวตามปริญญาโท เท่านั้น ซึ่งข้อสังเกตนี้ชี้ให้เห็นว่า ความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อมเกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นเร็วซึ่งเป็นเทรนด์ที่อนาคตทุกคนจะใส่ใจไปกับมัน เพราะทุกคนโตมากับมัน
สิ่งแวดล้อมกับการหาผลกำไร
แต่หากในมุมของนักรณรงค์แล้ว ต่างพูดเย้ยหยันเชิงประชัดประชันเสียดสีว่า โลกจะแย่หมดแล้ว จะไม่มีที่อยู่ไปหมดแล้ว ยังสนใจเรื่องกำไรอีกหรอ? โดยรณรงค์ให้ทุกคนผลักดันด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งสองมุมมองเป็นมุมมองที่ผมไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าใครพูดผิด หรือพูดถูก แต่ความจริงแล้วเราไม่สามารถหนีความจริงที่ว่า เราอยู่ในโลกของทุนนิยมที่ทุกคนล้วนเป็นเจ้าของ ล้วนเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราจำเป็นต้องมีทรัพยากรในการดำรงค์ชีวิต ดังนั้นสำหรับผมการทำธุรกิจย่อมไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมองเห็นโอกาสจากเรื่องตรงนี้ แต่เราจะทำอย่างไรให้สังคมได้รับโอกาสที่เรามองเห็นด้วย
โลกแต่ละสมัย
ในโลกสมัยเก่า เราต่างพูดถึงการเจรจาต่อรองที่เราต้อง Win หรือได้เปรียบในข้อการเจรจาต่อรองและการค้าการทำกำไรนั้น ๆ ในโลกที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อย เราแสวงหาไปยังจุดร่วม แต่ยังสงวนไว้ซึ่งจุดที่แตกต่าง เรามองหารการทำธุรกิจและการเจรจาต่อรองที่เป็น Win-Win หรือได้รับผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ
แต่ในโลกสมัยปัจจุบันและถัดไป เราต้องแสวงหาธุรกิจ และการเจรจาต่อรองที่เป็น Win-Win-Win ก็คือมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากการทำธุรกิจและเจรจาต่อรองของเราทั้งหมดอย่างน้อย 3 ฝ่าย ก็คือ เรา-ลูกค้า และ สังคม
ในส่วนสังคมที่ควรได้รับผลประโยชน์นั้นเราสามารถ ออกแบบกระบวนการตัดสินใจให้สอดคล้องกับ SDGs ที่สหประชาชาติตั้งเป้าหมายมาไว้ร่วมกัน เพื่อเป็นตัวช่วยให้เรารู้ว่าจะตัดสินใจไปทางไหนได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะ SDGs คือเป้าหมายที่เราต้องพิชิตไปด้วยกันของทั้งโลกซึ่งมีทั้งหมด 17 ข้อ และแต่ละข้อย่อมมีตัวชีวัดเป็นของตนเอง
โดยรวมแล้ว SDGs จะช่วยธุรกิจได้อย่างไร?
และหากธุรกิจที่ทำสามารถตอบโจทย์ SDGs ข้อใดข้อหนึ่งเราย่อมทำให้เกิดการทำธุรกิจในรูปแบบ Win – Win – Win แล้วได้นั้นเอง หากเราอยากที่จะมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ หรือแนวทางในการปรับตัวเข้าสู่โลกแห่งความยั่งยืน เรายังสามารถมองไปยัง SDGs ทั้ง 17 ข้อได้เช่นเดียวกัน เพราะธุรกิจที่ดีเกิดจากเรากำลังแก้ไขปัญหาให้กับใครสักคน และ SDGs ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาภาพรวมของโลก ถ้าเราแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าและยังแก้ไขปัญหาให้กับโลกด้วย มันคงเป็นโอกาสที่ดีไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะครับ?
karnnikro
