สิ่งแรกที่เจอหลังจากเข้าเรียนวิชากฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์ และทรัพย์สิน คือ “ทรัพย์” คืออะไร?
คำถามแสนสั้นที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่มันไม่ง่ายเลยล่ะครับ เพราะตามความหมายของมาตรา 137 ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติไว้ว่า
ตัวบทกฎหมาย ทรัพย์
ป.พ.พ. ม.137 ทรัพย์ หมายความว่า วัตถุมีรูปร่าง
ซึ่งภาษาอังกฤษคือ
Section 137 Things are corporeal objects.
กล่าวคือสิ่งใดที่ มีรูปร่างในตัวของมัน และเราอาจสัมผัสได้ หรือมองเห็นมันได้ ทั้งหมดต้องมีรูปร่างก็คือทรัพย์นั่นเอง
ภาษาไทยเราอาจจะทำให้เรางงได้ เพราะ ทรัพย์นี่มันมีหลายศาสตร์ ซึ่งความหมายแตกต่างกันไป แต่หากเราใช้ภาษาอังกฤษนั้นอาจทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นครับ “Things” หรือสิ่งของใด ๆ ก็ตามที่มีรูปร่างคือทรัพย์ตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย
แต่หากถามว่า พลังงาน นับเป็นทรัพย์ไหม ณ ตอนนี้ในกฎหมายของประเทศไทยเองยังไม่มีคำตอบให้กับคำถามนี้ครับ
และอีกประเด็นคือศพ ที่เป็นบุคคลที่สิ้นสภาพบุคคลแล้วก็ยังไม่ได้มีระบุเช่นเดียวกัน
กฎหมายทรัพย์สำคัญอย่างไร?
กฎหมายทรัพย์ หรือความหมายของทรัพย์ตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยนั้นมีความสำคัญอย่างไร
ก็สามารถตอบได้ว่า เราจะสามารถรู้ได้ว่าใคร ลักทรัพย์เรา หรือไม่ได้ลักทรัพย์เรา และผลประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วยครับ
หากทรัพย์ใดที่ไม่มีเจ้าของ เราก็สามารถถือเอาและเป็นเจ้าของได้เช่นกัน
ลักษณะที่ถือเอาได้ และเราแสดงความเป็นเจ้าของได้ ต้องมีลักษณะตือ สามาถใช้ได้ กินได้ ถือเอาเป็นเจ้าของได้
ทรัพย์นั้นหากบุคคลมีสิทธิ์เหนือทรัพย์ เราก็จะเรียกว่า “ทรัพยสิทธิ์” ซึ่งหากเรามีสิทธิ์ในทรัพย์นั้นแล้ว เราย่อมทำอะไรกับทรัพย์ที่เรามีกรรมสิทธิ์ก็ได้
และที่สำคัญคือหากเราสามารถกำหนดขอบเขต จำกัดที่อยู่ให้ทรัพย์ที่เรามี “กรรมสิทธิ์” เราย่อมยังมีกรรมสิทธิ์ ในทรัพย์นั้นอยู่ แต่หากเราไม่สามารถกำหนดขอบเขตให้กับทรัพย์นั้นได้แล้ว ทรัพย์นั้นย่อมไม่ใช่ของเรา
ยกตัวอย่างเช่นกรณี
คำพิพากศาลฎีกาที่ 958/2509
“บ่ออยู่ในลำรางสาธารณะซึ่งติดอยู่กับคลอง ระหว่างบ่อกับคลองมีร่องน้ำ ซึ่งร่องน้ำได้เป็นทางให้ปลาในบ่อกับในลำคลองเข้าออกถึงกันได้โดยอิสระ ปลาที่อยู่ในบ่อยังไม่ได้อยู่ในความยึดถือหรือยังไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด แม้จำเลยจะได้จับเอาปลาไปจากบ่อ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์”
1 comment