การศึกษากฎหมาย หลายครั้งที่ผมบอกใครต่อใครว่าผมกำลังศึกษานิติศาสตร์ เพื่อเตรียมตัวไปเป็นทางเลือกในการเป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ นั้นเพราะผมเองจบวิทยาลัยผู้ประกอบการมาคงเป็นการต่อยอดกันและกันได้อย่างดี
และเวลาไปไหนมาไหนนั้นผมจะพกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมทั้งอาญาไปด้วยทุกครั้ง เพราะต้องมีเรียนต่อในทุก ๆ เย็น ทุกคนจะตั้งคำถามกับผมโดยทันทีว่า ต้องจำตัวบททุกตัวเลยไหม เรียนยากหรือเปล่า ผมก็จะตอบกลับไปอย่างภาคภูมิใจและออกแนวโม้ ๆ ว่า ใช่ผมจำได้หมด ทั้ง ๆ ที่ความจริงนั้นไม่ใช่อย่างนั้นเพราะ เพียงแค่ แพ่งและพาณิชย์นั้นมีไปกว่า 1700 กว่ามาตรา อาญาอีกกว่า 500 ยังไม่รวมถึงกฎหมายพิเศษฉบับอื่น ๆ ในประเทศไทยที่มีนับไม่ถ้วนใครจะไปจำได้หมด
ภาพจำของเราคือคนที่เรียนกฎหมาย คือคนที่ต้องจำประมวลทั้งหมด แต่ไม่ใช่ในประเทศไทย เพราะประเทศไทยนั้นเราเรียนกันแบบได้ให้ได้ทราบถึง นิติวิธี (Juristic Method) หรือวิธีคิดแบบนักกฎหมาย
ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม
คำคม กฎหมายจากซีรีส์
ระบบกฎหมาย
ในระบบกฎหมายที่มีอิทธิพลกับโลก ณ ปัจจุบันมากที่สุดคือระบบกฎหมายจากฝั่งตะวันตก ระบบที่สะท้อนทุนนิยม ให้โลกได้แข่งขันกันและไม่ไปละเมิดซึ่งสิทธิของกันและกัน มีอยู่สองระบบที่เป็นสำคัญของโลกคือ
- ระบบ คอมมอน ลอว์ (Common laws) ระบบนี้จะเป็นระบบที่เรียนจาก คำตัดสินของผู้พิพากษาในอดีต เป็น Case learn คือเรียนว่าถ้าเป็นในกรณีนี้ ศาลในอดีตตัดสินว่าอย่างไร เปรียบเทียบกับคดีที่เจอควรจะต้องตัดสินอย่างไร ระบบกฎหมายประเภทนี้ที่เห็นคนเป็นผู้นำคือ ประเทศอังกฤษ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ระบบแบบนี้จะมีความ Creative สูง เพราะแต่ละเคสที่เจอคงไม่ได้เจออะไรเหมือน ๆ กัน แต่ข้อเสียมันคือมันไม่ได้ถูกจัดระเบียบไว้อย่างดี
- ระบบ ซิวิลล์ ลอว์ (Civil Laws) ระบบนี้เป็นระบบที่ประเทศไทยยึดถือ ซึ่งเริ่มใช้จริงจังในช่วงรัฐกาลที่ 5 ที่เราไปคัดลอกประมวลมาให้เป็นสากลเท่าทันกับนานาชาติ เราใช้ต้นฉบับมาจากหลายที่เช่น เยอรมัน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สวิสแลนด์ ต่างใช้ระบบซิวิลล์ลอว์กกันทั้งนั้น ระบบนี้เป็นระบบที่ต่อยอดมาจากโรมัน จึงเป็นระบบของนักปราช นักคิด นักวิชาการ จึงมีความเป็นระบบอย่างสูง
การศึกษากฎหมาย แบบ Civil Laws
การศึกษากฎหมายในประเทศไทย จึงศึกษาวิธีคิด คิดอย่างไรให้เป็นระบบระเบียบ ทั้งการใช้การตีความกฎหมาย การหาเหตุผล และกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย แต่ประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพลจาก Common Laws ไม่น้อย เพราะผู้ที่มีอิทธิพลทางกฎหมายในประเทศไทยจำนวนมาก ก็จบมาจากสาย Common laws ทั้งที่อังกฤษ และอเมริกา กฎหมายในไทยจึงมีความผสมปนเปกันจนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
ธรรมศาสตร์ Jurisprudence
การศึกษาในไทยจึงเริ่มศึกษากันตั้งแต่วิชาธรรมศาสตร์ คือศึกษาตั้งแต่แนวคิด หลักเกณฑ์วิธีการ คือการรู้ว่าหลักเกณฑ์พื้นฐานทางกฎหมายคืออะไร เพื่อไปใช้ได้กับทุก ๆ กฎหมายในประเทศไทย ถ้าสะท้อนอยู่ในประมวลแพ่งและพาณิชย์ก็จะเป็นมาตราแรก ๆ ตั้งแต่มาตรา 4-14 ของประมวล
สรุป
การศึกษากฎหมาย ในประเทศไทย การเรียนรู้เรื่องพื้นฐานนั้นเป็นส่วนสำคัญที่เราจะได้ใช้ไปตลอดของการอยู่ในสังคมรวมกับกฎหมาย การศึกษาแนวความคิด นิติปรัชญาทั้งหลายนั้น จึงเป็นส่วนที่จะทำให้เราเข้าใจกฎหมายที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน
รวมทั้งเป็นรากฐานที่ทำให้เราเข้าใจกฎหมายได้ในทุกฉบับ ถ้ามีการเปลี่ยนกฎหมาย ตรากฎหมายใหม่ เราก็จะเข้าใจมันได้อย่างถูกต้องและเหมาะแก่การนำไปใช้งาน